วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

เรื่องของเม้า



พุทธศาสนสุภาษิต สิ่งที่เป็นการยาก กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ กิดโฉ มะนุดสะ ปะติลาโภ ความได้เป็น
มนุษย์เป็นการยาก กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ กิดฉัง มัดจานะ ชีวิตัง ความเป็นอยู่ของสัตว์เป็นการยาก กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ กิดฉัง สัดธัมมัด สะวะนัง การฟังธรรมของสัตบุรุษเป็นการยาก กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท กิดโฉ พุดทานะ มุบปาโท ความเกิดขึ้นแห่งท่านผู้รู้เป็นการยาก ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโส ทุนละพัง ทัดสะนัง โหติสำพุดทานัง อะพินหะโส การเห็นพระพุทธเจ้าเนืองๆ เป็นการหาได้ยาก เรื่องของเม้า ตอนที่สอง มีคนมาแจมกับตามหาแก่นธรรมกันแล้วและที่รับปากว่าจะมากับท่านสะมะชัยโยแล้วก็มี เม้าจะรออ่านแล้วก็เลยขอแจมก่อนในครั้งนี้ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรขอขียนคำว่า"ชีวิต"ดีกว่าลองอ่านกันดูนะครับว่าจะเข้าท่าหรือเปล่า เม้าเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุราว 6 ปีเป็นลูกชายร้านทำเฟอร์นิเจอร์เล็กๆแห่งหนึ่ง มีคนงาน 2-3 คนมีพี่น้อง 7 คน เสียชีวิตแต่เล็ก 2คน เม้าเป็นลูกคนที่ 4 จากลูกคนที่เหลือทั้งหมด คุ้นเคยกับคนสูงวัยตั้งแต่เเม่ผู้ให้กำนิดเพราะผู้เป็นแม่อายกว่า 40 ปีแล้วในตอนนั้น พอถึงเวลาเข้าเรียนหนังสือ แม่ก็พาไปเรียนกับโรงเรียนเล็กๆข้างบ้าน ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนแม่จะหวีผมให้เรียบแปล้ รองเท้าใหม่เอียมแต่กางเกงหลวมโคล่งแถมมีรอยปะใยแมงมุมเล็กๆที่ข้างหลังกางเกง เพราะรับช่วงต่อมาจากพี่ชาย ตามธรรมดาของครอบครัวที่มีลูกหลายคน แม่จะให้ค่าขนมและอาหารพอดีกับการ

ใช้แบบประหยัด เพราะหมดพอดีไม่มีเหลือทุกวัน เม้านอกจากจะขลุกกับเพื่อนที่โรงเรียนแล้ว ก็จะอยู่กับแม่เกือบตลอดเวลา ช่วยแม่ทำโน่นทำนี่ ทุกเย็นที่เม้าไปตลาดกับแม่ แม่ค้าจะทักทายเม้าและแม่เกือบทุกร้าน อย่างร้านขายหมูจะแถมหมูสันในให้แม่แล้วบอกว่า" ไปให้นึ่งให้อาตี๋กิน " และคำพูดยอดฮิตของแม่ค้าเกือบทุกร้านในตลาด จะพูดตอนส่งของให้แม่ว่า"ลงบัญชีไว้ก่อนมั๊ยเจ๊"อย่างยิ้มแย้ม แต่แม่ก็ไม่ได้ลงบัญชีทุกร้าน จะเลือกบางร้านที่เหลือก็จ่ายเงินสดไป กิจวัตรก่อนข้าวเย็นของเม้า ต้องเก็บเศษไม้ที่คนงานไสหน้าเพื่อเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ต่อไป ที่เขาเรียกกันว่าขี้กบและยังมีขี้เลื่อยจากการเลื่อยไม้อีกต่างหาก คนงานมักหมุนเวียนเปลี่ยนไปแล้วแต่งาน บางครั้งเจอคนงานใจดีก็จะช่วยเม้าเก็บของ2-3 เข่ง คนงานมักถามเม้าว่าชอบกินไข่มากหรือ เเพราะอาหารเช้าของเม้าอาทิตย์ละ 5 วันก่อนไปโรงเรียนก็คือไข่ต้ม2 ฟองกับข้าว เพราะแม่ไม่มีเวลาเตรียมอาหารได้มากกว่านั้น แม่จะยุ่งทั้งวันแถมยังต้องทำกับข้าวให้คนงานและครอบครัวกิน 3 มื้อ ว่างจากงานอื่นๆแม่จะมานั่งกระเทาะเม็ดบัวที่ตากแดดแห้งกรอบใส่ปี๊บใบใหญ่ ด้วยอุปกรณ์คล้ายหลุมไม้และมีดพร้าหรือมีดอีโต้ ค่าแรงช่างถูกแสนถูกคือปี๊บใหญ่ 5 บาท เม้าอยากช่วยแม่ก็เลยให้แม่สอนกระเทาะ ซึ่งกว่าจะกระเทาะเป็นนิ้วมือของเม้าก็เกือบขาดไปหลายต่อหลาย

ครั้ง เพราะมีดมันต้องคมจึงจะกระเทาะเปลือกบัวแตกและต้องงัดให้ออก มีเรื่องอึดอัดใจของเม้าอยู่เรื่องหนึ่งที่โรงเรียนที่เม้าต้องเจอ คือก่อนสอบทุกครั้งทางโรงเรียนจะประกาศชื่อเด็กนักเรียนที่ยังไม่ได้จ่ายค่าเทอมให้มาจ่ายให้เรียบร้อยทางไมโครโฟน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีสิทธิ์สอบ แต่หลังจากนั้นสองสามวันเมื่อแม่รู้จากเม้า ก็จะนำเงินมารีบจ่ายค่าเทอมให้เสมอ แม่ไม่ต้องพูดคำว่าเชื่อแม่นะลูกว่าจะเรียบร้อย แต่แม่ทำให้ดู เพราะแม่เป็นคนจีนเลยพูดไทยให้คนไม่คุ้นเคยฟังได้ไม่ชัด (แม่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ) แต่สิ่งที่แม่ทำให้เม้ารักแม่สุดๆก็คือหลังจากจ่ายค่าเทอมตามที่เม้าบอกแม่ว่าโรงเรียนประกาศชื่อเม้าหลายครั้งแล้ว แม่กลับไปคุยกับครูสมศรีอย่างเข้าใจชัดเจนว่าครูอย่าประกาศชื่อลูกชายฉันอีกเลย แม่ทำมือเขียนกระดาษให้ แล้วบอกทำนองว่าทำหนังสือทวงมาให้ฉัน จะรีบมาจัดการให้ หลังจากนั้นเม้าก็ไม่ได้ยินเสียงประกาศชื่อเม้าทวงค่าเทอมอีกเลย มีแต่หนังสือจากครูสมศรีส่งมาถึงแม่ผ่านเม้าพร้อมรอยยิ้มของครู และมักจะพูดตอนส่งหนังสือให้ว่า "แม่หนูรักหนูจังเลยนะ" ใช่สิเม้าถึงรักแม่ที่สุดในโลกเม้าเติบโตในอ้อมกอดของแม่ด้วยความรัก และไม่เคยสงสัยในความรักของแม่เลยแม้แต่น้อย ถึงแม่จะให้อะไรๆน้อยกว่าน้องมากกว่า อย่างเช่นมีขนมร้อนๆจากเพื่อนของแม่มาฝาก แม่จะไม่รีรอที่จะหยิบขนมขึ้นมาเป่าให้เย็นแล้วก็ใส่ปากเม้าเลย มันอร่อ่ยมากเลย จริงๆนะ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เม้าต้องเอาเครื่องมือช่าง

ไปให้ช่างที่ศูนย์การค้าสยาม ปัจจุบันก็สยามดิสคอบเวอรี่นะแหละ ตอนนั้นอายประมาณ 10 ขวบ อุ้มเครื่องมือแนบอกขึ้นรถเมล์ไป แต่ขึ้นได้แค่กระไดขั้นแรกเพราะรถแน่นมาก พอรถเลี้ยวตรงแยกปทุมวันตัวเม้าก็เอียงหลุดออกไปนอกรถ แต่ตอนนั้นมีมือใครก็ไม่รู้จับคอเม้าดึงกลับเข้ามาในรถ ทุกวันนี้ยังระลึกถึงมือข้างนั้นด้วยความขอบคุณ ที่ทำให้เม้าได้อยู่กับแม่อีกหลายสิบปี เวลาผ่านไปหลายปีเม้าก็ยังกระเทาะเปลือกลูกบัวไปพลางอ่านหนังสือไปพลาง ช่วงมัธยมปลายแม่ดูเหมือนจะขาดเงินมาก เพราะแม่ยืมเงินญาติให้เห็นบ่อยๆ แต่แม่ก็จะคืนให้ตามกำหนดทุกครั้ง เม้าก็มุ่งมั่นจะช่วยแม่มาก จึงไปกราบครูประจำชั้นว่าจะขอไม่มาโรงเรียนแต่จะขอมาสอบอย่างเดียว แล้วก็เล่าเรื่องแม่ให้ครูฟัง ครูก็ยอมแต่ขอให้มาโรงเรียนบ้าง ครูท่านนั้นท่านชื่อครูประณีต และท่านได้ให้โอกาสอย่างใหญ่หลวงแก่ชีวิตของเม้าอย่างมากมาย เม้าไม่ได้บอกแม่ว่าไม่ไปเรียนทุกวัน แต่ไปอาทิตย์ละวันหรือสองวัน ที่เหลือก็บอกแม่ว่าโรงเรียนมีกิจกรรม แม่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร แล้วในปีนั้นเม้าก็ทำให้แม่และครูดีใจ เพราะสอบได้ที่หนึ่งของห้อง หลังจากปีนั้นพี่ๆเริ่มจบการศึกษาแม่เริ่มสบายขึ้นมาก เพราะแม่มีเงินเดือนจากพี่ๆ พี่ยีเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นวีระบุรุษของน้องๆ ทุกเรื่องที่พ่อและแม่เอ่ยถึง ทั้งสองก็จะได้รับทันที ไม่เคยได้ยินคำว่าไม่จากพี่ชายคนนี้เลย ตอนเรียนหนังสือ พี่ยีเป็นคนเรียนหนังสือเก่งกิจกรรมเยี่ยม ก็เลยได้เรียนคณะวิศวกรรมในสถาบันมีชื่อ และมักจะเป็นประธานนักศึกษาเกือบทุกที่ๆพี่ยีเรียน พี่ยีจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปส่งหนังสือพิมพ์

และไปช่วยเขาส่งกาแฟเพื่อเอาเงินมาช่วยแม่ก่อนไปเรียน พี่ยีบอกน้องๆเสมอว่าเรียนไปเถอะขาดเหลืออะไรพี่จะจัดการให้ และพี่ไม่เคยปดต่อคำพูดตัวเองเลย นอกจากนี้แล้วไม่เคยเห็นพี่ยีตอบปฎิเสธใครถ้ามาขอความช่วยเหลือ แม้กระทั่งทุกวันนี้ถ้าใครพูดถึงพี่ยี ก็จะพูดว่าเขาไม่เคยเซย์โนกับใครทุกคำที่ขอความช่วยเหลือ พี่ยีจึงเป็นที่รักของทุกคนและเพื่อนบ้าน ในช่วงเรียนมหาลัยฯตอนไปอ่านหนังสือและติวหนังสือกับเพื่อนๆแถวเกษตร มีอยู่คืนหนึ่งที่เม้าอ่านหนังสือจนล้า จึงเอนกายพิงกำแพงพักสายตาพอลืมตาขึ้นมาก็เห็นพระพุทธรูปห่างจากตัวประมาณเมตรครึ่ง ทองสุกปลั่งสักครู่ก็เปลี่ยนไปเป็นโครงกระดูก จะว่าผีอำก็ยังเห็นพัดลมหมุนอยู่ซ้ายมือ ขาเหยียดตรงเห็นเหงื่อตรงปลายหางตา แต่ขยับตัวไม่ได้ ไม่รู้

จะทำอย่างไร จู่ๆก็นึกถึงหลวงปู่แหวน สุจิณโณและเห็นท่าน สักพักโครงกระดูกก็รวมเป็นพระพุทธรูปแล้วก็หายวับไป อีกห้านาทีเพื่อนๆมาชวนเล่นผีถ้วยแก้ว เม้าได้แต่ร้องบรื๋อแล้วก็คลุมโปงนอนทันที หลังจากนั้นสองสามวันมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกวักมือเรียก แล้วบอกว่าเอ็งเอาพระไปห้อยคอ แล้วท่านก็ยื่นหลวงปู่แหวนรุ่นเราสู้มาให้องค์หนึ่ง จากความคิดว่าพระพุทธอยู่ที่ใจไม่นิยมอิฐปูน ก็เลยมีหลวงปู่แหวนมาคล้องคอด้วยความเคารพและศรัทธา

เรื่องของเม้า

เอ....ที่เขียนมานี่มันสอดคล้องกับหัวข้อของท่านสะมะชัยโยหรือเปล่าว่า "ตามหาแก่นธรรม" วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะครับ - เม้า 10/3/53



ไม่มีความคิดเห็น: